Custom Search

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555

10 เรื่อง ที่เด็กออกทิสติกอยากให้คุณรู้ (ต่อ)

       2. กระบวนการรับรู้ของหนูนั้นสับสน

         การบูรณาการการรับรู้ทางประสาททั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจยากที่สุด ในเรื่องของออทิสติก แต่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด หมายความว่า การมองเห็น รับรู้เสียง รับรู้กลิ่น รส และสัมผัสของทุก ๆ วัน ที่คุณอาจจะแทบไม่สังเกตเห็น กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้หนูต้องเจ็บปวดทางกายจริง ๆ สภาพแวดล้อมที่หนูอาศัยอยู่ต้องกลายเป็นนรกสำหรับหนู

         หูของหนูอาจจะไวเป็นพิเศษ เสียงคนนับโหลกำลังพูดพร้อม ๆ กันกลายเป็นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ลำโพงกำลังประกาศส่วนลดพิเศษอยู่ปาว ๆ เสียงดนตรีจากเครื่องเสียงหรือทีวีก็ดังลั่น เครื่องบดกำลังปั่นกาแฟอยู่โครมคราม เครื่องคิดเงินทำเสียงขลุกขลัก คลิกคลัก เครื่องหั่นเนื้อเป็นแผ่นส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด เด็กร้องไห้ลั่น รถเข็นล้อดังออดแอด ไฟนีออน มีเสียงหึ่งอยู่ตลอดเวลา สมองหนูกรองเสียงที่เข้ามาไม่ได้ และหนูมีอาการ "สำลักเสียง" จนหนูต้องหนีไปให้ไกลที่สุด

         สัมผัสกลิ่นของหนูอาจจะไวเกินเหตุ ปลาบนแผงที่ไม่สดนักส่งกลิ่นฉุนที่คุณอาจไม่ได้กลิ่น ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆเราอาจจะไม่ได้อาบน้ำวันนี้ แผนกเนื้อกำลังแจกไส้กรอกให้ชิมเด็กอ่อนที่แม่กำลังเข็นอยู่ข้างหน้าอึออกมาใส่แพมเพอรส์กลิ่นหึ่ง พนักงานบริเวณชั้นวางองแถวสามก็กำลังใช้น้ำยาล้างพื้นเหม็น ๆ ทำความสะอาดโหลแตงกวาดองที่ตกลงมาแตก หนูทนไม่ไหวแล้ว หนูคลื่นไส้อยากอาเจียนเต็มประดา

         เพราะจอรับแสงตาหนูอาจจะไวมาก ประสาทสัมผัสนี้จึงอาจจะเป็นสิ่งแรกที่นูจะทนไม่ได้ แสงนีออนที่นวลตาสำหรับคุณอาจจัดจ้าเกินไปสำหรับหนู แล้วยังส่งเสียงหึ่ง ๆ ดังสนั่นอีก ห้องทั้งห้องอาจจะดูเหมือนจะเต้นได้ และหนูจะปวดตามาก แสงที่กะพริบจะสะท้องไปทุกทางและทำให้ภาพดูบิดเบี้ยวไปหมดที่ว่างก็ดูวูบไหวไปมา แสงจากหน้าต่างสว่างจนปวดตา และมีของเยาะไปหมดจนลายตา ไม่รู้จะมองตรงไหน พัดลมบนเพดานก็หมุนไม่หยุด คนก็เดินไปเดินมาไม่รู้จบ สิ่งเหล่งนี้ส่งผลต่อการทรงตั และการรับรู้สิ่งรอบด้านของหนู จนหนูรับไม่ได้และไม่รู้ตัวเลยว่าหนูอยู่ที่ไหนกันแน่



                                                                                                                                                    (ต่อ)

ไม่มีความคิดเห็น: